“กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต หมายถึง การรวมตัวกันของชาวบ้าน เพื่อช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยการประหยัดทรัพย์ แล้วนำมาสะสมรวมกันทีละเล็กละน้อยเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อใช้เป็นทุนให้สมาชิกที่มีความจำเป็นเดือดร้อนกู้ยืมไปใช้ในการ ลงทุนประกอบอาชีพ หรือเพื่อสวัสดิการของตนเองและครอบครัว
หลักการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต จะดำเนินงานให้ประสบผลสำเร็จ และมีประสิทธิภาพจะต้องบริหารจัดการอยู่ภายใต้คุณธรรม 5 ประการ ดังนี้
1.ความซื่อสัตย์
2.ความเสียสละ
3.ความรับผิดชอบ
4.ความเห็นอกเห็นใจกัน
5.ความไว้วางใจกัน
วัตถุประสงค์ของการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
๑. ส่งเสริมให้มีการประหยัดและออมเงินในรูปเงินสัจจะ
๒. ให้บริหารเงินทุนสนับสนุนการประกอบอาชีพและสวัสดิการของสมาชิก
๓. ให้มีประสบการณ์ในการบริหาร และจัดทำเงินทุนด้วยตนเอง
๔. ส่งเสริมให้มีความสามัคคี การทำงานร่วมกัน และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
๕.ให้มีประสบการณ์ในการบริหาร และจัดการเงินทุนของตนเอง
เงินทุนของกลุ่ม
๑. เงินสัจจะสะสม เป็นเงินที่ได้จากการออมของสมาชิก จำนวนเท่า ๆ กัน ทุกเดือนตามกำลังความสามารถ เพื่อใช้เป็นทุนในการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ซึ่งจะจ่ายคืนเงินสัจจะสะสมเมื่อสมาชิกสิ้นสุดสมาชิกภาพแล้วเท่านั้น ซึ่งกลุ่มจะจ่ายผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล
๒. เงินสัจจะสะสมพิเศษ เป็นเงินรับฝากจากสมาชิก ที่มีเงินเหลือและประสงค์จะฝากเงินได้กับกลุ่ม ซึ่งสามารถถอนเงินออกไปใช้จ่ายเมื่อจำเป็น และกลุ่มจะจ่ายผลตอบแทนใน รูปแบบดอกเบี้ยตามระเบียบของกลุ่ม
๓. เงินรายได้อื่น ๆ เช่น ค่าสมัคร/ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ ดอกเบี้ย
๔. เงินอุดหนุน จากส่วนราชการ องค์กรปกครองท้องถิ่น และองค์กรอื่น ๆ
สมาชิก
สมาชิกของกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตมี ๓ ประเภท คือ
๑.สมาชิกสามัญ ได้แก่บุคคลทุกเพศ ทุกวัยภายในหมู่บ้าน/ตำบล ที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่ม ตามระเบียบข้อบังคับของกลุ่ม
๒. สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ กลุ่ม/บุคคล ภายในหมู่บ้าน/ตำบล ที่สนใจและสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม โดยไม่ประสงค์จะกู้เงินจากลุ่ม
๓. สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ข้าราชการ หรือคหบดี ที่สนใจและให้การสนับสนุนกลุ่มโดยไม่หวังผลตอบแทน
คณะกรรมการ
คณะกรรมการบริหารกลุ่มออมทรัพย์ มี ๔ คณะ ดังนี้
๑. คณะกรรมการอำนวยการ จำนวน ๕-๙ คน มีหน้าที่ในการบริหาร จัดการกลุ่มออมทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพ เป็นที่พึงพอใจของสมาชิก ตลอดเป็นตัวแทนของกลุ่มในการประสานงาน และติดต่อกับองค์กรภายนอก
๒. คณะกรรมการพิจารณาเงินกู้ จำนวน ๓-๕ คน มีหน้าที่ในการพิจารณาให้กู้ ? ยืมเงิน
ติดตามโครงการ และเร่งรัดหนี้สิน
๓. คณะกรรมการตรวจสอบ จำนวน ๓-๕ คน มีหน้าที่ในการตรวจสอบบัญชีและผลการดำเนินงานของกลุ่ม
๔. คณะกรรมการส่งเสริม จำนวนขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิก และระเบียบข้อบังคับของกลุ่ม มีหน้าที่ชักชวนผู้สมัครใจ สมัครเป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ ตลอดจนการให้ความรู้เกี่ยวกับกลุ่มออมทรัพย์แก่สมาชิก ประสานงานระหว่างสมาชิกกับกลุ่ม และกลุ่มกับสมาชิกให้มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
กิจกรรมของกลุ่ม
๑. กิจกรรมด้านการให้บริการรับฝากเงิน และการกู้ยืมเงิน
๒. กิจกรรมด้านการจัดสวัสดิการให้กับสมาชิก
๓. ขยายเครือข่ายและทำธุรกิจ เช่น ศูนย์สาธิตการตลาด, โรงสี เป็นต้น
๔. กิจกรรมในการพัฒนาสมาชิก เช่น การฝึกอบรม การศึกษาดูงาน
ประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์
๑. ส่งเสริมให้ประชาชนมีการออมเงิน และนำเงินไปใช้ในการพัฒนาอาชีพ โดยลดภาระการกู้ยืมเงินจากแหล่งอื่น ๆ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง
๒. พัฒนาคนให้มีคุณธรรม 5 ประการ คือ ซื่อสัตย์ เสียสละ รับผิดชอบ เห็นอกเห็นใจ และไว้วางใจซึ่งกันและกัน
๓. ฝึกประสบการณ์การบริหารเงินทุน ให้กับบุคคลในชุมชน
๔. พัฒนาศักยภาพของคนในด้านต่าง ๆ เช่น การเป็นผู้นำ การปกครอง ตามระบบประชาธิปไตย
๕. ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา คิดและแก้ปัญหาของตนเองด้วยวิธีการทำงานร่วมกัน
การจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต
๑.ก่อนการจัดตั้ง
- ศึกษาข้อมูล/สถานการณ์
- ให้ข้อมูลกับผู้นำกลุ่มและประชาชนทั่วไป
- ให้ผู้นำกลุ่มที่ประผลสำเร็จเล่าประสบการณ์
- ศึกษาดูงานนอกสถานที่
๒.การจัดตั้งกลุ่ม
– ประชุมกลุ่มเป้าหมาย
- ขอมติจากที่ประชุม
- รับสมัครสมาชิก
- เลือกตั้งคณะกรรมการ
- จัดทำระเบียบข้อบังคับ/กำหนดวันส่งเงินสัจจะ
- จัดทำเอกสาร/ทะเบียน/บัญชี/สมุดสัจจะสะสม
- ข้อตกลงการฝากเงินกับธนาคาร
- รายงานหน่วยงานที่รับผิดชอบทราบ
- กำหนดเป้าหมายการทำงานร่วมกัน
๓.ภายหลังการจัดตั้งกลุ่ม
- เข้าร่วมประชุมทุกครั้งในวันส่งเงินสัจจะ
- ให้คำแนะนำ/ปรึกษาแก่คณะกรรมการและสมาชิก
- ประชุม/ฝึกอบรม/ให้ข้อชี้แนะ
- รายงานผลความก้าวหน้า
- เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี
- ร่วมกับคณะกรรมการ/สมาชิกพัฒนากลุ่มให้ก้าวหน้า