ประวัติ
บ้านโคกเป็นชุมชนห่างไกลจากอำเภอฟากท่า ต้องเดินเท้าข้ามภูเขาใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 2 วัน ไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้ามาตรวจตราดูแลให้การสนับสนุน จะมีเพียงแต่เจ้าหน้าที่ออกตรวจท้องที่เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ต่อมาเกิดกรณีทหารฝรั่งเศสเข้ามาปล้นชิงทรัพย์ระหว่างจังหวัดกับอำเภอ จึงได้จัดกำลังตำรวจตระเวนชายแดนเข้ามาประจำอยู่บ้าง และมีเจ้าหน้าที่ออกตรวจท้องที่บ่อยขึ้น
ต่อมาได้มีการก่อสร้างอาคารเรียนและตัดถนนในหมู่บ้านเป็นทางเกวียนซึ่งพออาศัยได้ ต่อมาปี พ.ศ. 2507 หน่วยพัฒนาการจังหวัดอุตรดิตถ์ (กรป.กลาง) ได้เข้ามาตั้งหมู่บ้าน (บ้านโคก) เป็นหมู่บ้านตัวอย่าง ได้มีการนำเครื่องจักรกลมาตัดถนน ความเจริญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามมาเป็นลำดับ กระทรวงมหาดไทยอาศัยอำนาจตามมาตราในพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พุทธศักราช 2457 มาตรา 64 และมาตรา 65 จึงได้แบ่งท้องที่อำเภอฟากท่า จังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งเป็นกิ่งอำเภอขึ้น 1 แห่ง เรียกชื่อว่า กิ่งอำเภอบ้านโคก มีเขตการปกครอง 2 ตำบล คือ ตำบลบ้านโคกและตำบลม่วงเจ็ดต้น มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2520 เป็นต้นมา[1] เพื่อประโยชน์แก่ทางราชการและประชาชน จังหวัดอุตรดิตถ์ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาปฏิบัติราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้มาติดต่อ และได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็น อำเภอบ้านโคก ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2530[2]

ที่ตั้งและอาณาเขต
อำเภอบ้านโคกตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือสุด ห่างจากตัวจังหวัดอุตรดิตถ์ 174 กิโลเมตร ในการเดินทางติดต่อกับจังหวัดอุตรดิตถ์ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที และห่างจากกรุงเทพมหานคร 643 กิโลเมตร การคมนาคมติดต่อใช้เส้นทางรถยนต์เป็นหลัก โดยมีเส้นทางลาดยางตลอดสาย และมีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอนาน้อย (จังหวัดน่าน) และเป็นชายแดนติดต่อกับบ้านนาฝาย บ้านปากลาย แขวงไชยบุรี (ประเทศลาว) โดยมีภูเขาเป็นแนวแบ่งเขต
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับบ้านผาแก้ว เมืองปากลาย แขวงไชยบุรี (ประเทศลาว) โดยมีภูทุ่งแล้งเป็นแนวแบ่งเขต
- ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลเด่นเหล็ก อำเภอน้ำปาด
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับบ้านห้วยก้านเหลือง หมู่ที่ 5 ตำบลฟากท่า อำเภอฟากท่า โดยมีภูผาหรอยเป็นแนวแบ่งเขต และติดต่อกับอำเภอนาหมื่น(จังหวัดน่าน)